ไม่ได้ "รวย" จนล้นฟ้า
เป็นเพียงลูก "ชาวนา" ก็หาความสุขได้
"นอนอะไรนักหนา ตื่นได้แล้ว แม่โทรตามหลายรอบแล้ว" เสียงคุณยายดังมาจากข้างล่าง...
"มีไรจ๊ะ? ขอนอนต่ออีกสักหน่อยไม่ได้หรอ ง่วงอ่ะ -_-"
"ไปซื้อน้ำแข็ง แล้วเอาไปให้คนงานที่เกี่ยวข้าวเดี๋ยวนี้ ปิดเทอมแทนที่จะไปช่วยเกี่ยวข้าว ไม่มีเลย นอนกินบ้านกินเมืองอยู่ได้ เป็นลูกชาวนาแท้ๆ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง"
รีบแก้ตัวทันที "ทำเป็นสิ ใครบอกทำไม่เป็นล่ะ ทฤษฎีงี้ยิ่งแน่น รู้หมดแหละ แต่ช่วงนี้ วันนี้ขี้เกียจ ขอเถอะนะจ๊ะ อิอิ" ....
"ถ้าพ่อแม่ตายไป ใครล่ะจะทำนาให้กินข้าว ขี้เกียจแบบนี้"
"แหม่ ! หนูทำเป็นจริงๆ หรือไม่หนูก็จ้างไงจ๊ะ หนูไม่มีวันขายที่นา อันเป็นที่รัก และเลี้ยงหนูมาจนโตได้ขนาดนี้หรอกจ่ะ ^^ หนูสัญญา"
แม้เราจะเป็นลูกชาวนา แต่.... เราก็มีความสุข ภูมิใจในความเป็นชาวนาของพ่อแม่ ของบรรพบุรุษเรา ชาวนาได้ชื่อว่า เป็น กระดูกสันหลังของชาติ เป็น "ฮีโร่ของคนไทย" แน่นอนว่าอาหารหลักของคนไทยคือ "ข้าว" และพวกเขานี่แหละ คือ ผู้ที่ปลูกข้าวให้คนไทยกิน ทั้งยังส่งออกนอกประเทศ เป็นสินค้าเศรษฐกิจ
ลูกชาวนา
จากทุ่งนาฟ้ากว้าง สางจนกลายเป็นสาย
สายลมอ่อนละไม พลิ้วพรายรักรัว
ลมริ้วทิวล้อ ระริกผืนพรมมัว
พรมพลิ้วพันพัว พร่างพรายพรูพร่าง
ท้องนาทุ่งทอง ฝูงนกบนฟ้า
บินปร๋อพราวตา นกกาบินคว้าง
หากินพเนจร ปีกร่อนเหินเมฆา
ร่อนลมชมฟากฟ้า ถลาร่อนหาเหยื่อกิน
เด็กเอ๋ยเด็กน้อย ยังด้อยต้องฝึกอ่าน
ขี่ทุยเป็นเพื่อนทาง กางหนังสือใจถวิล
อ่านไปตะโกนไป ก้องฟ้าก้องแผ่นดิน
ลูกชาวนาไม่เคยสิ้น ใฝ่รู้และสร้างงาน
ลูกไทยชาวนา ไม่เคยล้ายิ้มละไม
ยิ้มสยามอยู่นี่ไง ไม่แล้งไร้ยิ้มงาม
รอยยิ้มแต้มแต่ง หน้าแฉล่มงดงาม
พิ้มพรายพริ้มสร้าง พร่างพลิ้วด้วยยิ้มเรา ... ลูกชาวนา
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคน โดยเฉพาะทุกท่านที่เป็นชาวนา รู้ดีว่าการทำนามันลำบาก และต้องอดทนมากแค่ไหน บางปีฝนก็แล้ง บางปีน้ำก็ท่วม เผลอๆ บางปีราคาข้าวก็ตกต่ำ ท่านจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ลูกหลานเป็นชาวนา ส่งลูกให้เรียนสูงๆ เราก็เป็นหนึ่งในนั้น แม่เราพูดเสมอว่า ทำนา มันลำบาก เจ็บไข้ได้ป่วยยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่ สวัสดิการเราไม่มี เบิกเงินก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ตั้งใจเรียน ให้สูงๆ ให้คุ้มกับที่ลงทุน อย่างน้อยได้เป็นครูได้เป็นข้าราชการก็ยังดี จะได้ไม่ต้องลำบากแบบพ่อกับแม่
ลูกคนนี้สัญญานะจ๊ะ ว่าจะตั้งใจเรียน และจะพยายามสอบบรรจุให้เป็นครูของคุณพ่อคุณแม่ให้ได้จ่ะ ^^